{"th-TH":"

เมืองสูงวัย 15 นาที บรรทัดฐานใหม่ของสังคม 600 เมตร

“สังคมสูงวัย” คือ สังคมที่มีสัดส่วนของผู้สูงอายุหรือประชากรที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป [1] เนื่องด้วยประเทศไทยมีผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สัดส่วนของอัตราการเกิดและจำนวนประชากรในวัยทำงานลดน้อยลง ในปี พ.ศ. 2565 สัดส่วนผู้สูงอายุของไทยได้เพิ่มเป็นประมาณร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ถือเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียนรองจากประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันสังคมไทยเป็น “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” แล้ว และในปี พ.ศ. 2583 ผู้สูงอายุไทยจะเพิ่มเป็นร้อยละ 31.4 ของประชากรทั้งหมด [2] เราจะเป็น “สังคมสูงอายุแบบสุดยอด” (Hyper Aged Society) โดยเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเร็วกว่าประเทศญี่ปุ่นเสียอีก [3] แล้วเราควรออกแบบเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัยอย่างไร

เมือง 15 นาทีของผู้สูงวัย

แนวคิดเมือง 15 นาทีสำหรับผู้สูงวัย ไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุผลแค่ว่าผู้สูงวัยนั้นมีสุขภาพร่างกายที่เปราะบาง แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงของเมือง สังคม เศรษฐกิจ และกายภาพเมืองในปัจจุบันเองที่ส่งผลเชิงลบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงวัยมากยิ่งกว่าคนวัยอื่น

การพัฒนาเมืองกระแสหลักที่แบ่งแยกย่านการใช้งานต่าง ๆ ออกจากกัน พึ่งพาการเดินทางโดยรถยนต์แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อเข้าถึงแหล่งกิจกรรมเมืองนั้นเป็นเสมือน “การลงโทษทางสังคมแก่ผู้สูงวัย” [2] ผู้สูงวัยไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ ต้องพึ่งพิงการช่วยเหลือจากลูกหลานในการเดินทางเข้าถึงพื้นที่ กิจกรรม และสิ่งบริการเมือง ขาดอิสระและไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ขาดความเชื่อมั่นที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง สิ่งเหล่านี้กระทบต่อการเชื่อใจและภูมิใจในตนเองของผู้สูงวัย

เราจะสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อผู้สูงวัย (Age-friendly city) ได้อย่างไร ผู้สูงวัยประกอบกิจกรรมประจำวันโดยต้องต่อรองกับสภาพแวดล้อมทางสังคมและกายภาพมากกว่าคนวัยอื่น ในทุกวันต้องพยายามใคร่ครวญถึงศักยภาพร่างกายกับขีดจำกัดของตนเองในการที่จะเข้าถึงกิจกรรมต่าง ๆ เมืองที่เป็นมิตรต่อผู้สูงวัยจึงเป็นกระบวนการที่ต้องเพิ่มโอกาสให้มากที่สุดทางด้านการดูแลสุขภาพ การมีส่วนร่วม พบปะเพื่อนพ้องหรือผู้คน และความปลอดภัยในเมือง [3] โอกาสของผู้สูงวัยนั้นต้องส่งเสริมไปด้วยสิ่งสำคัญ 2 ประการ คือ สภาพแวดล้อมและการเคลื่อนที่

เมืองสูงวัย 600 เมตร

องค์ประกอบสภาพแวดล้อมสำหรับผู้สูงวัยต่อการใช้ชีวิตประจำวันจะเกี่ยวข้องกับการใช้พื้นที่สาธารณะ ระบบการเดินทางขนส่ง ที่อยู่อาศัย แหล่งงาน ความผูกพันทางสังคม การมีส่วนร่วม ข้อมูลและการสื่อสาร และการดูแลสุขภาพ [4] และที่สำคัญคือสภาพแวดล้อมเหล่านี้ต้องอยู่ในระยะเดินเท้าได้ไหวสำหรับผู้สูงวัย เมืองที่เป็นมิตรต่อผู้สูงวัยจึงต้องมีการใช้งานทางสังคมในระยะใกล้กับละแวกบ้านมาก ๆ ยิ่งเข้าถึงได้ง่ายเท่าใด ผู้สูงวัยก็จะยิ่งรู้สึกพึ่งพาตนเองได้ รู้สึกปลอดภัย และมั่นใจในตนเองที่จะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน เดินเหินในที่สาธารณะในเมืองที่เป็นมิตร [5]

การเคลื่อนที่ของผู้สูงวัยย่อมเป็นไปได้ช้ากว่าคนวัยอื่น ตัวแปรเชิงระยะทางจึงเป็นประเด็นสำคัญของการพิจารณาเมืองที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงวัย เฟลีแพ อูชัวอะ ลีออน (Felipe Ulloa-Leon) ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้สูงวัยมีความเร็วของการเดินเท้าอยู่ที่ 2.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 40 เมตรใน 1 นาที [1] ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปอยู่ครึ่งหนึ่ง (ค่ามาตรฐานของความเร็วในการเดินเท้าโดยบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยสากลในการออกแบบเมือง คือ 80 เมตรใน 1 นาที [6] ซึ่งเท่ากับระยะการเดินเท้า 400, 800, 1,200 เมตรใน 5, 10, 15 นาทีตามลำดับ [7]) ดังนั้น ผู้สูงวัยโดยทั่วไปจะสามารถเดินเท้าได้ในระยะ 200, 400, 600 เมตรใน 5, 10, 15 นาทีตามลำดับ

เมือง 15 นาทีที่ 600 เมตร จึงเป็นบรรทัดฐานใหม่ของเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัย การสร้างเมืองที่เป็นมิตรกับการเดินเท้าเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการในชีวิตประจำวันนั้นสอดคล้องกับแนวทางการใช้ชีวิตของผู้สูงวัยในอนาคต พวกเขาเหล่านี้ยังรักอิสระ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เขาเข้าถึงเองได้โดยไม่รู้สึกถูกควบคุม ผู้สูงวัยมากถึงร้อยละ 40 วางแผนที่จะทำงานและเลือกที่จะทำงานจนถึงอายุ 70 ปีเพื่อสร้างคุณค่าให้ตนเอง บางกลุ่มอาจเปลี่ยนแปลงการใช้เงินที่ใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อความสุขหรือความสะดวกสบายและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยพบว่าผู้สูงวัยใช้เวลาออกกำลังกายโดยเฉลี่ยประมาณ 215 นาทีต่อสัปดาห์ซึ่งมากกว่าวัยรุ่นเกือบ 1 เท่า พวกเขาสนใจการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมยุคดิจิทัล และสนใจทดลองทำกิจกรรมหรือสัมผัสประสบการณ์ที่ยังไม่เคยทำ ซึ่งอาจเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้แยกแยะระหว่างผู้สูงอายุหรือคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า “สังคมไร้วัย” (Ageless Society) [8]

ผู้สูงวัยในกรุงเทพ

กรุงเทพมหานครมีผู้สูงวัยอยู่อาศัยกระจายตัวในทุกเขต โดยมีจำนวนผู้สูงอายุ 1,251,761 คน และมีค่าเฉลี่ย 25,035 คนในแต่ละเขต (พ.ศ.2566) แต่มีจำนวนมากที่สุดในเขตบางแค รองลงมาคือเขตสายไหม และบางเขน ตามลำดับ อ้างอิงจากข้อมูลเปิดของศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally) พบว่าโดยภาพรวมแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของทั้ง 3 เขตเป็นเมืองที่ผู้คนเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง 9 องค์ประกอบได้ภายในระยะเดินเท้า 15-20 นาที (องค์ประกอบที่กล่าวถึง ได้แก่ เรียนรู้ อาหาร แหล่งงาน การค้าและบริการ นันทนาการ พบปะสังสรรค์ สุขภาพ ออกกำลังกาย และเดินทาง) อย่างไรก็ดี เมื่อผู้สูงวัยมีความเร็วของการเดินเท้าช้ากว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปอยู่ครึ่งหนึ่ง เมือง 15 นาทีที่ 600 เมตรจึงถูกนำมาเป็นกรอบพิจารณาว่าผู้สูงวัยในกรุงเทพเข้าถึงสิ่งบริการเมืองต่าง ๆ ได้หรือไม่ โดยจะนำเขตบางแคที่มีผู้สูงวัยมากที่สุดมาพิจารณาในที่นี้

จำนวนผู้สูงอายุรายเขต จังหวัดกรุงเทพมหานคร

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัย

เขตบางแคประกอบไปด้วย 4 แขวง ได้แก่ บางแค บางแคเหนือ บางไผ่ และหลักสอง โดยทั้งหมดมีจำนวน 35 ชุมชน การศึกษากำหนดขอบเขตในระยะ 600 เมตรจากความเป็นไปได้จริงของการเดินเท้าจากศูนย์กลางชุมชนแต่ละแห่งในทุกทิศทาง แล้วพิจารณาการปรากฏอยู่ของจุดสนใจตามองค์ประกอบทั้ง 9 ด้าน

ตำแหน่งขององค์ประกอบทั้ง 9 ด้านภายใต้ระยะการเดินเท้าจริง 600 เมตรจาก 35 ชุมชน โดยจะสังเกตได้ว่าขอบเขตการเดินเท้าที่ปรากฏเป็นการพิจารณาจากระยะการเดินเข้าถึงจริงตามรูปร่างของเส้นทาง ซึ่งไม่ใช่การตีวงรัศมี 600 เมตรเป็นวงกลมจากศูนย์กลางชุมชน

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

กราฟเปรียบเทียบสัดส่วนองค์ประกอบ 9 ด้านภายใต้ระยะการเดินเท้า 15 นาทีหรือ 600 เมตรของผู้สูงวัยทั้ง 35 ชุมชนในเขตบางแค

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

สัดส่วนองค์ประกอบของเมือง 15 นาทีในระยะ 600 เมตรในเขตบางแค

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

เขตบางแคด้วยระยะทาง 600 เมตรสำหรับผู้สูงวัย สามารถเข้าถึงการค้าและบริการเป็นจำนวนสูงถึงร้อยละ 35 อาหารร้อยละ 25 แหล่งงานร้อยละ 24 และสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพร้อยละ 9 แต่เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ การเดินทางด้วยระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะ และพื้นที่พบปะสังสรรค์ได้เพียงร้อยละ 2 และมีพื้นที่นันทนาการและออกกำลังกายที่ต่ำกว่าร้อยละ 1 เท่านั้น (ร้อยละโดยคร่าว) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขตบางแคที่มีผู้สูงวัยจำนวนมากนั้นมีแหล่งงาน อาหาร การค้าและบริการดี และการดูแลสุขภาพ แต่ยังด้อยในเรื่องอื่น ๆ เช่น การเรียนรู้ เดินทาง พบปะ นันทนาการ และออกกำลังกาย ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงวัย

ชุมชนที่ผู้สูงวัยมีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมและสิ่งบริการเมืองได้มากกว่าชุมชนอื่นในเขตบางแค คือ ชุมชนคลองยายเทียบฝั่งใต้ ชุมชนเทพพิทักษ์ ชุมชนศิริเกษม 1 ซึ่งชุมชนต่างๆเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้กับถนนสายหลักและจุดตัดของถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก และถนนทวีวัฒนา เป็นต้น

สัดส่วนองค์ประกอบ 9 ด้านภายใต้ระยะการเดินเท้า 15 นาทีหรือ 600 เมตรของผู้สูงวัยในชุมชนคลองยายเทียบฝั่งใต้ ชุมชนเทพพิทักษ์ ชุมชนศิริเกษม 1

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

ชุมชนคลองยายเทียบฝั่งใต้ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสัญจรหลากหลายรูปแบบในพื้นที่ เช่น รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง และวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น เราจะสามารถพบเห็นผู้สูงอายุเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง และมอเตอร์ไซค์ทั้งในรูปแบบส่วนตัวและในรูปแบบมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ริมถนนเพชรเกษม พบเห็นร้านขายยาเป็นจำนวนมากโดยมีคลินิกบริการด้านสุขภาพทั่วไป และคลินิกให้บริการรักษาเฉพาะทางอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน สำหรับพื้นที่จุดพักผ่อนนัดพบปะพูดคุยกันได้ในระหว่างวันของผู้สูงอายุจะสามารถพบเห็นได้ในพื้นที่ตลาดสดบางแค และพื้นที๋ศูนย์อาหารภายในห้างสรรพสินค้า (โลตัส บางแค) ซึ่งอยู่ในระยะ 600 เมตรของการเข้าถึงเมือง 15 นาทีของผู้สูงวัย นอกจากนั้นภายในย่านใกล้เคียงมีสวนแห่งวัฒนธรรมและสวนเพชรกาญจนารมย์ที่สามารถรองรับกิจกรรมการใช้งานของผู้สูงอายุได้ แต่ในปัจจุบันชุมชนคลองยายเทียบฝั่งใต้ยังไม่สามารถเข้าถึงสวนสาธารณะเหล่านี้ได้ในเวลา 15 นาที (ระยะเดินเท้า 600 เมตร)

คลินิก ร้านขายยา และร้านค้าและบริการต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงชุมชนคลองยายเทียบฝั่งใต้ (ภาพแถวบน)

ตลาดสดบางแคและพื้นที๋ศูนย์อาหารภายในห้างสรรพสินค้า (โลตัส บางแค) เป็นพื้นที่จุดพักผ่อน นัดพบปะพูดคุยกันในระหว่างวันของผู้สูงอายุในชุมชนคลองยายเทียบฝั่งใต้ (ภาพแถวล่าง)

ภาพทั้งหมด พ.ศ.2567

ชุมชนเทพพิทักษ์ตั้งอยู่ระหว่างศูนย์การค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ (บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม 1 และศูนย์การค้าวิคตอเรีย การ์เด้นส์) ภายในชุมชนส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยลักษณะบ้านเดี่ยวสลับไปกับโรงแรมขนาดเล็ก และมีร้านค้าบริการแทรกตัวอยู่ตามซอยภายในชุมชน บริเวณใกล้เคียงชุมชนสามารถพบเห็นคลินิกบริการด้านสุขภาพหลากหลายรูปแบบ ทั้งคลินิกเฉพาะทาง เช่น รักษาดวงตา ที่ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม คลินิกกายภาพบำบัด และจุดตรวจสุขภาพของกรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์การค้า โดยพบว่าศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่รองรับกิจกรรมและการใช้งานของผู้สูงอายุ เช่น การพักผ่อนในศูนย์อาหาร ไปจนถึงกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้มีพื้นที่แสดงออกทางความสามารถในด้านดนตรี

คลินิกให้บริการเฉพาะทางด้านกายภาพบำบัด และจุดตรวจสุขภาพของกรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์การค้าวิคตอเรีย การ์เด้นส์ (ภาพแถวบน)

พื้นที๋ศูนย์อาหารภายในห้างสรรพสินค้า (บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม 1) และพื้นที่ลานกิจกรรมของศูนย์การค้าวิคตอเรีย การ์เด้นส์ หนึ่งในพื้นที่จุดพักผ่อนระหว่างวัน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้มีพื้นที่แสดงความสามารถทางดนตรีได้ (ภาพแถวล่าง)

ภาพทั้งหมด พ.ศ.2567

ชุมชนศิริเกษม 1 ตั้งอยู่ใกล้ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต และตลาดสนามหลวง 2 จตุจักรฝั่งธน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ด้านการค้าและการบริการขนาดใหญ่ที่รองรับการใช้งานของคนทุกกลุ่ม ผ่านกิจกรรมการจับจ่ายใช้สอยซื้อของสดและรับประทานอาหาร และใช้บริการร้านขายยาซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากภายในตลาดทั้ง 2 แห่ง นอกจากนั้นชุมชนศิริเกษม 1 ยังตั้งอยู่ใกล้สวนทวีวนารมย์ซึ่งถือเป็นพื้นที่รองรับการพบปะพูดคุย ออกกำลังกาย หรือพาลูกหลานมาใช้สนามเด็กเล่นภายในสวน นอกจากนั้นยังมีพื้นที่บริเวณริมน้ำของวัดศาลาแดงเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมนันทนาการร่วมกันกับครอบครัวของผู้สูงอายุผ่านกิจกรรมเชิงนันทนาการ เช่น ให้อาหารปลา นั่งพักผ่อนริมศาลา

ตลาดเวิลด์มาร์เก็ตที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ เช่น การจับจ่ายใช้สอย การรับประทานอาหาร และร้านขายยาที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก (ภาพแถวบน)

พื้นที่รองรับกิจกรรมนันทนาการและออกกำลังกายในสวนทวีวนารมย์ และพื้นที่บริเวณริมน้ำของวัดศาลาแดง (ภาพแถวล่าง)

ภาพทั้งหมด พ.ศ.2567

สังคมสูงวัยในเมือง 15 นาที

เรากำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) เมื่อมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนร้อยละ 28 หรือประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดในอนาคต การเปลี่ยนแปลงทางสังคมนี้เป็นภาวะเร่งด่วนที่เมืองต้องได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อเตรียมรับมือกับพลวัตที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่ผู้สูงวัยเองนั้นก็ยังมีความต้องการที่จะใช้ชีวิตและประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองได้อย่างอิสระ ปลอดภัย และมั่นใจในตนเอง การเตรียมการที่จะให้มีการเข้าถึงที่ดีและมีสิ่งบริการเมืองที่ครบถ้วนในระยะเวลาการเดินเท้า 15 นาทีหรือระยะทาง 600 เมตร ของผู้สูงวัยจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ

การจัดเตรียมพื้นที่สาธารณะ สิ่งบริการพื้นฐาน การดูแลสุขภาพ พื้นที่ออกกำลังกาย และนันทนาการ ให้ผู้สูงวัยนั้นอาจจะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งปรากฏให้เห็นในชุมชนกรณีศึกษาหลายแห่งในเขตบางแค สิ่งเหล่านี้ยังเกิดขึ้นได้กับการปรับเปลี่ยนหรือขยายเวลาใช้งานสถานที่ราชการ โรงเรียน และวัดที่อาจจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยสามารถเข้าใช้พื้นที่ทำกิจกรรมในด้านอื่น ๆ ได้เพิ่มเติมนอกเวลาทำการของสถานที่นั้น ๆ ทั้งการเรียนรู้ เสริมสร้างประสบการณ์ นั่งเล่น พักผ่อน พบปะพูดคุยกัน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ทางกายภาพ แต่ต้องประกอบด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น การจ้างงานผู้สูงวัย การตรวจสุขภาพที่กระจายทั่วถึง การสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม ไปจนถึงกิจกรรมนันทนาการที่เหมาะสมกับศักยภาพร่างกายของผู้สูงวัย เช่น การทำสวนเพื่อเพาะปลูก การเรียนรู้ศิลปะและงานฝีมือ หรือการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความสุขในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้สูงวัยรักษาคุณค่าของตนเองไว้ได้อย่างสมบูรณ์

บรรณานุกรม

[1] กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2564). สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบันและเศรษฐกิจในประเทศไทย. เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2567 เข้าถึงได้ที่ https://www.dop.go.th/th/know/15/926

[2] คณะทำงานจัดทำรายงานสุขภาพคนไทย. (2566). “มิติด้านสุขภาพ” ของสังคมสูงวัยในประเทศไทย. เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2567 เข้าถึงได้ที่ https://www.thaihealthreport.com/th/articles_detail.php?id=222

[3] ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์. (2564). ไทยพร้อมหรือไม่ กับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์. เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2567 เข้าถึงได้ที่ https://op.mahidol.ac.th/ga/posttoday-22-2/

[4] Ulloa-Leon, Felipe., Correa-Parra, Juan., Vergara-Perucich, Francisco., Cancino-Contreras, Francisca., and Aguirre-Nuñez, Carlos. (2023). “15-Minute City” and Elderly People: Thinking about Healthy Cities. Smart Cities, 6, 1043–1058. เข้าถึงเมื่อ 1 มีนาคม 2567. เข้าถึงได้จาก https://doi.org/10.3390/smartcities6020050

[5] World Health Organization. (2016). Decade of Healthy Ageing 2020–2030. เข้าถึงเมื่อ 25 มีนาคม 2567. เข้าถึงได้จาก https://apps.who.int/gb/ebwha/pdf_files/EB146/B146_23-en.pdf

[6] Lawton, M.P., and Nahemow, L. Ecology and the Aging Process. In Eisdorfer, C., Lawton, M.P., Eds. (1973). The Psychology of Adult Development and Aging. American Psychological Association: Washington, DC, USA, pp. 619–674.

[7] Murthy, V.H. (2015). Making Our Communities Walkable for Older Adults. Public Health Rep. 130, 424–425. Quoted in Ulloa-Leon, Felipe., Correa-Parra, Juan., Vergara-Perucich, Francisco., Cancino-Contreras, Francisca., and Aguirre-Nuñez, Carlos. (2023). “15-Minute City” and Elderly People: Thinking about Healthy Cities. Smart Cities, 6, 1043–1058. เข้าถึงเมื่อ 1 มีนาคม 2567. เข้าถึงได้จาก https://doi.org/10.3390/smartcities6020050

[8] ศูนย์วิชาการด้านการรู้เท่าทันสื่อของผู้สูงอายุ. (2566). ชวนส่องเทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้สูงอายุในปี 2567: แม้วัยจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน แต่หัวใจยังคงสดใสอยู่เสมอ. เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2567 เข้าถึงได้ที่ https://www.iceml.org/20240209-literacy-elderlylifestyle/

","en-US":"

เมืองสูงวัย 15 นาที บรรทัดฐานใหม่ของสังคม 600 เมตร

เมือง 15 นาทีของผู้สูงวัย

เมืองสูงวัย 600 เมตร

ผู้สูงวัยในกรุงเทพ

จำนวนผู้สูงอายุรายเขต จังหวัดกรุงเทพมหานคร

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัย

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

สัดส่วนองค์ประกอบของเมือง 15 นาทีในระยะ 600 เมตรในเขตบางแค

ที่มา ศูนย์มิตรเมือง (Urban Ally), 2567

ภาพทั้งหมด พ.ศ.2567